5 เรื่องที่คุณอาจไม่เคยรู้เกี่ยวกับ “กล้อง CCTV” และ “Security Tech”

Read More

5 เรื่องที่คุณอาจไม่เคยรู้เกี่ยวกับ “กล้อง CCTV” และ “Security Tech”

ในช่วง 5 ปีให้หลังมานี้ ระบบกล้องวงจรปิด (CCTV System) กลายเป็นอุปกรณ์ที่ได้รับความนิยมขึ้นอย่างมาก จากเดิมที่เป็นเทคโนโลยีสำหรับองค์กรเพื่อใช้ดูแลความปลอดภัยในอาคารขนาดใหญ่ กลายเป็นเทคโนโลยีที่ “ใกล้ตัว” ผู้บริโภคทั่วไปมากขึ้น ทั้งในด้านการป้องกันทรัพย์สินและลดเหตุร้ายที่อาจเกิดขึ้นได้ รวมทั้งยังสามารถจับภาพและบันทึกวิดีโอที่อาจจะเป็นประโยชน์ในการชี้ตัวผู้บุกรุกหรือเป็นหลักฐานเพื่อช่วยในการคลี่คลายคดีต่างๆ อีกด้วย

ความก้าวหน้าของโลกเทคโนโลยีกล้อง CCTV มีรายละเอียดค่อนข้างมาก ไม่ใช่แค่รูปแบบและการติดตั้งตัวกล้องเท่านั้น แต่ยังรวมถึงนวัตกรรมที่นำมาปรับใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ เทรนด์การใช้งาน คุณภาพของสินค้าในตลาด ที่ยังคงมีความเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง วันนี้ SKY จึงขอพาทุกคนไปดู 5 เรื่องน่าสนใจเกี่ยวกับกล้อง CCTV ที่ผู้ใช้งานทั่วไปอาจยังไม่เคยทราบมาก่อน ไปชมกันเลยครับ

cctv

1.ตลาดของกล้อง CCTV กำลังเติบโตอย่างมากในปัจจุบัน กล้อง CCTV ได้รับการพัฒนาขึ้นเพื่อตอบโจทย์หลากหลายกลุ่มลูกค้า สามารถจำแนกตลาดผู้บริโภคคร่าวๆ ออกเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่ 

1.)กลุ่ม Small IoT เป็นกลุ่มลูกค้าครัวเรือนที่กำลังเติบโตอย่างมากในปัจจุบัน เน้นฟังก์ชันด้านไลฟ์สไตล์ หาซื้อง่าย และติดตั้งได้ไม่ยาก มีราคาเพียงพันกว่าบาทขึ้นไป 

2.)กลุ่ม Home Useเป็นกลุ่มลูกค้าโครงการที่อยู่อาศัย เน้นคุณภาพของกล้องเป็นหลักและเริ่มมีการนำศูนย์สั่งการ (Security Operation Center หรือ SOC) เข้ามาช่วยควบคุมและดูแลรักษาความปลอดภัยแก่ลูกบ้าน 

3.)กลุ่ม Business Use เป็นกลุ่มลูกค้าธุรกิจขนาดกลาง เช่น อาคารสำนักงาน โรงงาน โรงพยาบาล รวมถึงโครงการที่อยู่อาศัยขนาดใหญ่และคอนโดมิเนียมที่ต้องการภาพคุณภาพสูง โดยจะติดตั้งกล้องประมาณ 64-200 ตัว 

4.)กลุ่ม Enterprise Use เป็นกลุ่มลูกค้าองค์กรหรือธุรกิจขนาดใหญ่ มักเป็นสถานที่ที่ต้องการใช้กล้องตั้งแต่ 200 ตัวขึ้นไปเช่น ศูนย์ราชการ ห้างสรรพสินค้า สนามบิน สนามกีฬา เน้นความปลอดภัยขั้นสูงสุดและคำนึงถึงระบบรักษาความปลอดภัยครบวงจร

Family

2.กล้อง CCTV ไม่ได้วัดคุณภาพกันแค่ความคมชัด 720p หรือ 1080p ผู้ผลิตมักใช้ตัวเลขที่ผู้บริโภคเปรียบเทียบได้ง่ายๆ มาเป็นกิมมิคทางการตลาด เช่น ความละเอียดกี่ล้านพิกเซล ความคมชัด 720p แต่ในความเป็นจริง คุณภาพของกล้อง CCTV ไม่ได้วัดกันแค่เรื่องดังกล่าวยังมีเรื่องที่ต้องดูประกอบอีกหลายปัจจัย เช่น ความไวแสง ความสามารถต่อการทำงานในระดับอุณหภูมิ ความสามารถในเวลากลางคืน ซอฟต์แวร์ที่เกี่ยวข้อง มาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น (Ingress Protection Rating) ระยะภาพ ระยะเวลาประกัน ไปจนถึงบริการหลังการขาย ผู้ซื้อโดยเฉพาะกลุ่ม Business Use และ Enterprise Use อาจจำเป็นต้องพิจารณาเรื่องเหล่านี้ประกอบ เพื่อให้เหมาะสมกับรูปแบบและสถานที่ที่ต้องการนำไปใช้งาน

cctv

3.กล้อง CCTV ก้าวหน้าจากยุค Passive สู่ยุค Active ด้วย AI ในอดีตกล้อง CCTV มักถูกใช้ในเชิงตั้งรับ (Passive) คือบันทึกวิดีโอเก็บไว้ก่อน จากนั้นค่อยนำมาใช้ดูภาพเหตุการณ์ย้อนหลัง แต่ด้วยเทคโนโลยีที่พัฒนามาอย่างต่อเนื่อง ทำให้ CCTV ถูกนำมาใช้ในเชิงรุก (Active) มากขึ้น โดยเฉพาะในยุคปัจจุบันที่มีการนำ AI มาช่วยประมวลผลที่หัวกล้อง ทำให้มีการนำกล้อง CCTV มาใช้งานแบบ Real-time เช่น การนำกล้อง AI CCTV ผนวกกับระบบ Alert-Alarm ให้ AI ช่วยวิเคราะห์วัตถุที่กล้องจับภาพได้ กรณีมีสัตว์หรือบุคคลไม่พึงประสงค์เข้ามาในบริเวณอาคาร ระบบจะแจ้งเตือนไปยัง SOC ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาความปลอดภัย โดยเฉพาะเวลาที่ต้องมอนิเตอร์กล้องหลายตัวพร้อมกัน

4.กล้อง CCTV กำลังพัฒนาสู่การประยุกต์ใช้ในวงกว้าง ไม่ได้ถูกนำไปใช้แค่เรื่องความปลอดภัย การนำ AI ซึ่งมีความสามารถวิเคราะห์วัตถุในภาพที่ถ่ายได้ ทำให้การใช้งานกล้อง CCTV ขยายไปได้กว้างขึ้นนอกเหนือจากเรื่องความปลอดภัย เช่น ในธุรกิจค้าปลีก มีการนำกล้อง AI CCTV มาใช้ทำเรื่องนับจำนวนคนในห้างสรรพสินค้า (People Counting) เพื่อให้ห้างทราบจำนวนคนที่เข้ามาใช้บริการในห้างแต่ละวัน และนำไปวางแผนบริหารจัดการสินค้าได้อย่างเหมาะสม ในต่างประเทศ มีการนำกล้อง AI CCTV มาช่วยเรื่องที่จอดรถอัจฉริยะ (Smart Parking) ผ่านเทคโนโลยีการอ่านและจดจำป้ายทะเบียน (License Plate Recognition) นอกจากจะใช้จดจำทะเบียนรถยนต์ที่เข้าร่วมงานเพื่อความปลอดภัยแล้ว ยังทำให้ทราบจำนวนรถยนต์ที่เข้ามาจอดรถในพื้นที่ เพื่อใช้บริหารจัดการในแต่ละช่วงเวลาด้วย

cctv

5.กล้อง CCTV กำลังกลายเป็น Trust Partner ด้านความปลอดภัย AI ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยขับเคลื่อนที่ทำให้กล้อง CCTV ไม่ได้เป็นแค่เครื่องมือ แต่กำลังกลายเป็น Trust Partner ด้านความปลอดภัยทั่วโลก เพราะการวิเคราะห์ของ AI ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานด้านความปลอดภัย ลดภาระงาน และลดความผิดพลาดในการมอนิเตอร์ภาพจากกล้องพร้อมกันครั้งละจำนวนมาก สำหรับสกาย ไอซีที ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านการวางระบบกล้อง CCTV และนำ AI เข้ามาช่วยประมวลผลเพื่อให้สามารถตรวจจับวัตถุต่างๆได้อย่างแม่นยำ กำลังอยู่ระหว่างการพัฒนา AI, กล้อง CCTV และเทคโนโลยีด้านความปลอดภัย (Security Tech) อื่นๆ มารวมกันเป็น Smart Security Platform เพื่อเป็น Trust Partner ในอาคารต่างๆให้แก่คนไทย คาดว่าจะเปิดตัวได้ในช่วงไตรมาส 4/2564 นี้

ในอนาคตคาดว่า เทคโนโลยีดังกล่าวจะยังมีเรื่องราวความเปลี่ยนแปลงใหม่ๆเกิดขึ้นได้อีกมาก จากเมกะเทรนด์เรื่อง Touchless ที่เร่งให้เทคโนโลยีทุกรูปแบบพัฒนาไปอย่างไม่หยุดยั้ง

SKY CCTV

หากท่านใดสนใจระบบกล้องวงจรปิด (CCTV System) ที่ฉลาดล้ำไม่เหมือนใคร สามารถติดต่อมาที่บริษัท SKY ได้เลยนะครับ เพราะ SKY เป็นบริษัท Tech Company เต็มรูปแบบที่เน้นการพัฒนานวัตกรรม การให้บริการ Digital Platform และ AI Solutions ให้ลูกค้าอย่างครบวงจร เพื่อช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในสังคมด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะของ SKY ICT

ติดต่อเรา

เราจะเป็นพลังสำคัญในการเปลี่ยนแปลงสังคม ด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะ ที่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนให้ดียิ่งขึ้น

ข้อความสำหรับขอความยินยอมในหน้าเว็บไซต์ https://www.skyict.co.th หากท่านยินยอมให้ทางบริษัทประมวลผลข้อมูลในกรณีใดๆ กรุณาทำเครื่องหมาย / ในช่อง ด้านหน้า