การเข้าสู่ยุคที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทสำคัญในทุกด้านของการดำเนินชีวิต เมื่อพูดถึงเทคโนโลยีช่วยให้การให้บริการภายในสนามบินที่มีความปลอดภัยและสะดวกสบายกว่าเคย หนึ่งในเทคโนโลยีที่มีบทบาทสำคัญในด้านนี้คือ เทคโนโลยีชีวมิติ (Biometrics) ซึ่งใช้การตรวจจับและยืนยันตัวตนของบุคคลด้วยลักษณะทางกายภาพหรือพฤติกรรมที่ไม่ซ้ำซ้อน เทคโนโลยีนี้สามารถนำมาใช้ในการตรวจสอบตัวตนของผู้โดยสารในสนามบินอย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็ว ซึ่งมีผลดีต่อการเพิ่มความปลอดภัยและลดเวลาในกระบวนการตรวจสอบแบบเดิม ในเชิงปฏิบัติการภายในสนามบินในประเทศไทย เทคโนโลยีชีวมิติมีบทบาทสำคัญในการสร้างประสบการณ์การท่องเที่ยวที่เป็นเอกลักษณ์และสะดวกสบายให้กับนักท่องเที่ยวที่มาใช้บริการในสนามบิน
การท่องเที่ยวในประเทศไทยกำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว และในอนาคตเทคโนโลยี Biometrics จะกลายเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยยกระดับประสบการณ์การท่องเที่ยวในประเทศไทย เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายและปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยวในกระบวนการเดินทางภายในสนามบิน ซึ่งเทคโนโลยีดังกล่าวสามารถนำมาใช้ในหลายประเภทของบริการภายในสนามบิน เช่น
- การเข้าสู่ระบบ: การใช้การตรวจจับลายนิ้วมือหรือการสแกนใบหน้าเพื่อเข้าสู่ระบบสนามบิน สิ่งนี้ช่วยลดความยุ่งเหยิงในการตรวจสอบและเพิ่มความรวดเร็วให้กับผู้โดยสารในกระบวนการเข้าถึงเขตเครื่องบินหรือพื้นที่ต่าง ๆ ในสนามบินได้
- การเช็คอินและจ่ายเงิน: การใช้การตรวจจับลายนิ้วมือหรือการสแกนใบหน้าในกระบวนการเช็คอินและจ่ายเงิน เทคโนโลยีนี้ช่วยลดเวลาที่ใช้ในการเช็คอินและจ่ายเงิน และสร้างประสบการณ์การท่องเที่ยวที่รวดเร็วและสะดวกสบายให้กับผู้เดินทาง
- การตรวจสอบความปลอดภัย: การใช้เทคโนโลยีชีวมิติในกระบวนการตรวจสอบความปลอดภัย เช่น การตรวจจับลายนิ้วมือหรือการสแกนใบหน้า เทคโนโลยีนี้ช่วยลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้บัตรประชาชนหรือบัตรต่าง ๆ ที่สามารถปลอมแปลงได้ และเพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้ใช้บริการในสนามบิน
ซึ่งสนามบินหลายแห่งทั่วโลกต่างเริ่มนำเทคโนโลยี Biometrics เข้ามาเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการผู้โดยสาร เพื่อเพิ่มความปลอดภัยและสะดวกสบายในการใช้บริการภายในสนามบิน เช่น สนามบินชางงี ประเทศสิงคโปร์ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในสนามบินต้นแบบในการใช้เทคโนโลยี Biometrics ในกระบวนการตรวจคนเข้าเมืองอัตโนมัติภายในสนามบิน รวมถึงสนามบินดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ สนามบินฮาร์ทสฟิลด์-แจ็คสัน เมืองแอตแลนตา ประเทศสหรัฐอเมริกา สนามบินซิดนีย์ ประเทศออสเตรเลีย และสนามบินฮาเนดะ ประเทศญี่ปุ่น ต่างนำเทคโนโลยีดังกล่าวเข้ามาใช้ภายในสนามบินเช่นเดียวกัน
สำหรับประเทศไทย ได้มีการวางในแผนในการใช้เทคโนโลยี Biometrics ให้บริการภายในสนามบิน โดยเริ่มจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิซึ่งเป็นสนามบินหลักในการรองรับการเติบโตของการท่องเที่ยว ด้วยความสะดวกสบายและความปลอดภัยที่มาพร้อมกับการใช้เทคโนโลยีนี้ ผู้เดินทางจะได้รับประสบการณ์ท่องเที่ยวที่ดีและเพิ่มความเชื่อมั่นในสนามบินไทย นอกจากนี้ เทคโนโลยี Biometrics ยังสามารถช่วยในการเก็บข้อมูลและวิเคราะห์เพื่อให้เกิดการวางแผนและสื่อสารในการพัฒนาการท่องเที่ยวไทยในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพ และพัฒนาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในประเทศไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน