ฟีเจอร์ใหม่! Apple แชร์ตำแหน่ง AirTag กับสายการบิน ติดตามกระเป๋าเรียลไทม์!

Read More

ปัญหากระเป๋าสูญหายหรือสัมภาระล่าช้าเป็นเรื่องที่ผู้โดยสารหลายคนกังวล โดยเฉพาะเมื่อเดินทางระหว่างประเทศ Apple จึงเปิดตัวฟีเจอร์ “Share Item Location” บน iOS 18.2 ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถแชร์ตำแหน่งของ AirTag กับสายการบินที่รองรับได้โดยตรง ทำให้การติดตามสัมภาระเป็นไปอย่างแม่นยำและรวดเร็วขึ้น

 

✨ ฟีเจอร์ “Share Item Location” คืออะไร?

ก่อนหน้านี้ AirTag ช่วยให้เจ้าของสามารถติดตามตำแหน่งสัมภาระผ่านแอป Find My แต่สายการบินไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลนี้ได้โดยตรง ทำให้ต้องใช้เวลานานในการติดตามกระเป๋าสูญหาย

แต่ตอนนี้! ฟีเจอร์ “Share Item Location” ช่วยให้ ผู้โดยสารสามารถแชร์ตำแหน่งของ AirTag ที่ติดกับกระเป๋าเดินทางกับสายการบินได้โดยตรง ผ่านแอป Find My บน iPhone โดยที่ เจ้าของยังคงสามารถควบคุมการแชร์ข้อมูลได้เอง เช่น กำหนดระยะเวลาการแชร์และหยุดแชร์ได้ทุกเมื่อ

เมื่อเปิดใช้งาน ข้อมูลตำแหน่งของ AirTag จะถูกส่งไปยังระบบของสายการบิน ทำให้พนักงานสามารถติดตามกระเป๋าได้ง่ายขึ้น หากสัมภาระเกิดล่าช้าหรือสูญหาย ระบบจะสามารถระบุตำแหน่งที่แม่นยำได้ทันที ลดเวลาการค้นหาและเพิ่มโอกาสในการส่งคืนกระเป๋าได้อย่างรวดเร็ว

🔥 ทำไมฟีเจอร์นี้ถึงช่วยให้การเดินทางสะดวกขึ้น?

การแชร์ตำแหน่ง AirTag กับสายการบินช่วยให้การติดตามกระเป๋าเดินทางแม่นยำขึ้น และมีประโยชน์มากมาย ได้แก่

ติดตามกระเป๋าได้แบบเรียลไทม์ – ผู้โดยสารสามารถดูตำแหน่งกระเป๋าได้ตลอดการเดินทาง ไม่ต้องรอลุ้นตอนรับกระเป๋าที่สายพาน
สายการบินสามารถค้นหากระเป๋าได้รวดเร็วขึ้น – เมื่อเกิดปัญหากระเป๋าล่าช้าหรือสูญหาย เจ้าหน้าที่สายการบินสามารถระบุตำแหน่งที่แน่นอนได้ทันที ลดเวลาการค้นหา
ปลอดภัยและเป็นส่วนตัว – ผู้ใช้สามารถกำหนดระยะเวลาการแชร์ และหยุดแชร์ได้ทุกเมื่อ ข้อมูลตำแหน่งของ AirTag จะไม่ถูกเปิดเผยเกินความจำเป็น
ลดโอกาสสูญหายถาวร – การติดตามตำแหน่งแบบเรียลไทม์ช่วยให้มั่นใจว่ากระเป๋าจะถูกติดตามและส่งคืนได้เร็วขึ้น ลดความเสี่ยงในการสูญหายแบบถาวร
เพิ่มความมั่นใจในการเดินทาง – ไม่ต้องพึ่งพาข้อมูลจากสายการบินเพียงอย่างเดียว ผู้โดยสารสามารถเช็กตำแหน่งกระเป๋าได้เอง

 

วิธีการตั้งค่าสำหรับการแชร์โลเคชั่นแบบเรียลไทม์ “Share Item Location” 

เชื่อมต่อ AirTag กับอุปกรณ์ของคุณ

  • นำ AirTag มาใกล้กับ iPhone หรือ iPad ของคุณ แล้วแตะ “เชื่อมต่อ”
  • ตั้งชื่อ AirTag และเลือกหมวดหมู่ของสิ่งของที่คุณจะติดตาม
  • แตะ “ดำเนินการต่อ” เพื่อเสร็จสิ้นการตั้งค่า
  1. หลังจากเชื่อมต่อแล้ว คุณจะสามารถดูตำแหน่งของ AirTag ได้ในแท็บ “รายการ” ในแอป Find My
    support.apple.com
  2. การแชร์ตำแหน่ง AirTag กับสายการบิน:
    • เปิดแอป Find My บน iPhone หรือ iPad ของคุณ
    • ไปที่แท็บ “รายการ” แล้วเลือก AirTag ที่คุณต้องการแชร์ตำแหน่ง
    • แตะที่ “แชร์ตำแหน่ง” หรือ “Share Location”
    • ป้อนข้อมูลของสายการบินหรือบุคคลที่คุณต้องการแชร์ตำแหน่งด้วย
    • กำหนดระยะเวลาที่ต้องการแชร์ตำแหน่ง และยืนยันการแชร์
  3. โปรดทราบว่าฟีเจอร์นี้จะสามารถใช้งานได้กับสายการบินที่รองรับเท่านั้น คุณสามารถตรวจสอบกับสายการบินของคุณว่ารองรับฟีเจอร์นี้หรือไม่

หลังจากตั้งค่าเสร็จสิ้น สายการบินจะสามารถติดตามตำแหน่งของสัมภาระของคุณผ่าน AirTag ได้แบบเรียลไทม์ ช่วยลดความกังวลเกี่ยวกับการสูญหายของสัมภาระและเพิ่มความสะดวกสบายในการเดินทางของคุณ

 

✈️ สายการบินไหนใช้ได้แล้ว?

ฟีเจอร์นี้เริ่มใช้งานแล้วกับสายการบิน Virgin Atlantic และ Lufthansa ซึ่งเป็นสายการบินแรก ๆ ที่รองรับ คาดว่าสายการบินอื่น ๆ จะทยอยนำฟีเจอร์นี้มาใช้ในเร็ว ๆ นี้ เพื่อช่วยให้ผู้โดยสารได้รับประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้น

 

ฟีเจอร์ “Share Item Location” บน iOS 18.2 เป็นอีกก้าวสำคัญที่ช่วยให้การเดินทางราบรื่นขึ้น ลดปัญหาสัมภาระล่าช้าหรือสูญหาย โดยให้ผู้โดยสารสามารถแชร์ตำแหน่ง AirTag กับสายการบินได้โดยตรง ช่วยให้การติดตามและจัดการสัมภาระเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

หากคุณใช้ iPhone และมี AirTag อย่าลืม อัปเดตเป็น iOS 18.2 และลองใช้ฟีเจอร์นี้ในการเดินทางครั้งต่อไป เพื่อให้มั่นใจว่าสัมภาระของคุณจะถึงที่หมายอย่างปลอดภัย! 🚀

ติดต่อเรา

เราจะเป็นพลังสำคัญในการเปลี่ยนแปลงสังคม ด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะ ที่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนให้ดียิ่งขึ้น

ข้อความสำหรับขอความยินยอมในหน้าเว็บไซต์ https://www.skyict.co.th หากท่านยินยอมให้ทางบริษัทประมวลผลข้อมูลในกรณีใดๆ กรุณาทำเครื่องหมาย / ในช่อง ด้านหน้า