ประเทศไทยถือเป็นหนึ่งในประเทศที่มีศักยภาพสูงในการเป็น Aviation Hub ของภูมิภาค ด้วยทำเลที่ตั้งซึ่งเชื่อมระหว่างโลกตะวันตกและตะวันออก สนามบินสุวรรณภูมิมีโครงสร้างพื้นฐานที่แข็งแรงและความสามารถในการรองรับผู้โดยสารจำนวนมาก แต่หากต้องการยกระดับสู่มาตรฐานโลก การนำเทคโนโลยีเข้ามาเสริมบทบาทคือสิ่งที่จำเป็น
บริษัท SKY ICT คือหนึ่งในผู้เล่นหลักที่เข้ามาเปลี่ยนโฉมสนามบินไทยให้ล้ำสมัยยิ่งขึ้น โดย CEO คุณสิทธิเดช มัยลาภ ได้เผยในรายการ The Secret Sauce ถึงแผนการลงทุนกว่า หมื่นล้านบาท เพื่อพัฒนา เทคโนโลยีด้านการบิน (Aviation Technology) ด้วยการผสาน AI, Big Data และระบบอัจฉริยะ เข้ากับการบริหารจัดการสนามบิน
SKY ICT ตั้งเป้ายกระดับสนามบินไทยผ่าน 3 ด้านสำคัญ ได้แก่
1. ความปลอดภัย (Security)
ใช้เทคโนโลยี AI และกล้องอัจฉริยะในการเฝ้าระวัง ตรวจจับพฤติกรรมผิดปกติ และระบุตัวบุคคลแบบเรียลไทม์ ช่วยให้ระบบรักษาความปลอดภัยของสนามบินแม่นยำและรวดเร็วยิ่งขึ้น
2. การบริหารจัดการ (Operations)
จัดตั้งศูนย์ควบคุมอัจฉริยะ (Command Center) ที่สามารถติดตามข้อมูลต่าง ๆ ในสนามบินแบบเรียลไทม์ ไม่ว่าจะเป็นสถานะเที่ยวบิน ระบบขนส่งกระเป๋า หรือจำนวนผู้โดยสาร ช่วยให้การบริหารงานเป็นระบบและมีประสิทธิภาพสูงสุด
3. ประสบการณ์ผู้โดยสาร (Passenger Experience)
พัฒนาระบบ Self Check-in, e-Gate, Smart Baggage Drop และการนำทางผ่านแอปพลิเคชัน เพื่อให้ผู้โดยสารได้รับประสบการณ์ที่ ไร้รอยต่อ (Seamless Travel) ตั้งแต่ก้าวเข้าสนามบินจนถึงขึ้นเครื่อง
จาก IT Company สู่ผู้นำด้าน Aviation Tech
SKY ICT เริ่มต้นจากบริษัทที่ให้บริการด้าน IT Infrastructure แต่วันนี้ได้ก้าวขึ้นมาเป็น Tech Enabler ที่วางโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลให้กับสนามบินทั่วประเทศ เปลี่ยนภาพสนามบินจากสถานที่บริการทั่วไป ให้กลายเป็น “สนามบินอัจฉริยะ” ที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล
แนวคิด “Data is the New Fuel” เป็นแกนกลางของการพัฒนา — เพราะข้อมูลแบบเรียลไทม์จะช่วยให้สนามบินทำงานได้แม่นยำ ลดความแออัด เพิ่มความปลอดภัย และรองรับผู้โดยสารได้มากขึ้นโดยไม่ต้องขยายพื้นที่
เป้าหมาย: จากจุดผ่านทาง → สู่จุดหมายของโลก
เมื่อโครงสร้างพื้นฐานทางกายภาพของไทยพร้อมแล้ว การเร่งลงทุนในระบบดิจิทัลและ AI คือจิ๊กซอว์สำคัญที่ขาดไม่ได้ หากไทยสามารถสร้างสนามบินที่ปลอดภัย ฉลาด และให้ประสบการณ์ที่เหนือความคาดหมาย — ประเทศไทยจะไม่ใช่แค่ “ทางผ่าน” แต่จะกลายเป็น “จุดหมาย” ของสายการบิน นักลงทุน และนักท่องเที่ยวทั่วโลก