บริษัทฯ จัดให้มีช่องทางการแจ้งเบาะแสและข้อร้องเรียน เพื่อให้พนักงาน ผู้ถือหุ้น ลูกค้า คู่ค้าหรือบุคคลอื่น ๆ ที่ทำธุรกิจกับบริษัทฯ สามารถแสดงความคิดเห็นหรือแจ้งข้อร้องเรียนเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่เกี่ยวข้องกับบริษัทฯ ผู้ที่พบเห็นการกระทำที่เข้าข่ายการละเมิดสิทธิมนุษยชนหรือมีการประพฤติผิดกฎหมายและศีลธรรม บริษัทฯ มีมาตรการในการคุ้มครองผู้แจ้งเบาะแสหรือผู้ร้องเรียน โดยไม่ว่าจะแจ้งด้วยวิธีใด บริษัทฯ จะเก็บรักษาข้อมูลของผู้แจ้งไว้เป็นความลับอย่างเคร่งครัด

ทั้งนี้ บริษัทฯ มีการกำหนดกระบวนการดำเนินการรับข้อร้องเรียนและการพิจารณาข้อร้องเรียน ตาม “นโยบายในการรายงานเบาะแส (Whistleblower Policy)” โดยเมื่อมีการรายงานเบาะแสที่พบเห็นผ่านทางช่องทางที่บริษัทแจ้งไว้ ผู้รับแจ้งจะรายงานข้อร้องเรียนที่รับแจ้งต่อคณะกรรมการตรวจสอบ จากนั้นจะมีการตรวจสอบข้อเท็จจริง หากการสืบสวนข้อเท็จจริงแล้วพบว่า ข้อมูลหรือหลักฐานที่มี มีเหตุอันควรเชื่อได้ว่าผู้ที่ถูกกล่าวหาได้กระทำการตามข้อกล่าวหาจริง บริษัทฯ จะให้สิทธิผู้ถูกกล่าวหาได้รับทราบข้อกล่าวหา และให้สิทธิผู้ถูกกล่าวหาพิสูจน์ตนเอง โดยการหาข้อมูลหรือหลักฐานเพิ่มเติมที่แสดงให้เห็นว่าตนเองไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำที่ได้ถูกกล่าวหา โดยผู้บริหาร หรือคณะกรรมการตรวจสอบ หรือคณะกรรมการบริษัท จะพิจารณาดำเนินการต่อผู้กระทำผิดและบรรเทาความเสียหาย และให้ความเป็นธรรมต่อผู้เสียหาย ซึ่งจะมีการรายงานผลการพิจารณาต่อที่ประชุมคณะกรรมการตรวจสอบและคณะกรรมการบริษัท

โดยในปี 2567 ที่ผ่านมา บริษัทฯ ไม่ได้รับการแจ้งเบาะแสและข้อร้องเรียนที่เกี่ยวข้องกับจรรยาบรรณในการดำเนินธุรกิจ นโยบายการกำกับดูแลกิจการ และนโยบายต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชันของบริษัทฯ

แนวทางการเยียวยา

บริษัทฯ จัดให้มีแนวทางในการเยียวยาแก่ผู้ที่อาจได้รับผลกระทบด้านสิทธิมนุษยชน อาทิ การขอโทษ การช่วยฟื้นฟู การชดเชยที่เป็นตัวเงินและ/หรือไม่เป็นตัวเงิน และการจ่ายค่าปรับ อีกทั้งยังจัดให้มีการติดตามและสื่อสารกับผู้ที่ได้รับผลกระทบอย่างสม่ำเสมอจนกว่าจะกลับไปสู่สภาพเดิม

นอกจากนี้ บริษัทฯ กำหนดให้มีการติดตามผลดำเนินงานด้านสิทธิมนุษยชนอย่างต่อเนื่อง และรายงานผลต่อผู้บริหารเพื่อให้รับทราบสถานการณ์และกำหนดแนวทางที่เหมาะสมในการจัดการกับผลกระทบที่เกิดขึ้นหรืออาจเกิดขึ้น โดยในปี 2567 พบว่า ไม่มีข้อร้องเรียนเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนใด ๆ

ผลการดำเนินงานที่สำคัญ

คณะกรรมการสวัสดิการ

บริษัทฯ มีตัวแทนพนักงานที่มีบทบาทหน้าที่ในการร่วมเจรจาต่อรองกับบริษัทเกี่ยวกับข้อตกลงที่ส่งผลกระทบต่อพนักงาน ตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 กำหนดไว้ในมาตรา 96 ให้นายจ้างของสถานประกอบกิจการที่มีลูกจ้างตั้งแต่ 50 คนขึ้นไป ต้องจัดให้มีคณะกรรมการสวัสดิการในสถานประกอบกิจการ

ในปี 2567 ตัวแทนพนักงานได้มีการประชุมร่วมกับบริษัทฯ เกี่ยวกับสวัสดิการ ผลประโยชน์ การเปลี่ยนแปลงระเบียบข้อบังคับ หรืออื่นใดที่ส่งผลกระทบต่อพนักงาน จำนวน X ครั้ง

ความหลากหลาย ความเสมอภาค และการยอมรับความแตกต่าง (DEI)

บริษัทฯ ให้ความสำคัญกับความเสมอภาคและความเท่าเทียมระหว่างเพศ รวมถึงการจ้างงานอย่างเป็นธรรม โดยพิจารณาการจ้างงานที่ไม่จำกัดเพศสภาพหรืออัตลักษณ์ทางเพศ และการจ้างงานตามความรู้ความสามารถ และคุณสมบัติที่เกี่ยวข้องกับงานนั้น ๆ เป็นหลัก มีการกำหนดค่าจ้างที่ไม่เลือกปฏิบัติโดยมิชอบด้วยกฎหมายและปราศจากอคติ มีการฝึกอบรมทักษะการทำงาน การจ่ายค่าตอบแทนที่เหมาะสมและเป็นธรรม มีนโยบายความปลอดภัยและอาชีวอนามัยในสถานที่ทำงาน เป็นต้น

ในปี 2567 บริษัทฯ มีจำนวนพนักงานชาย 110 คน คิดเป็นร้อยละ 49.55 และพนักงานหญิง 112 คน คิดเป็นร้อยละ 50.45 โดยพนักงานทั้งหมดแบ่งเป็นผู้บริหารระดับสูง 4 คน ระดับจัดการ 30 คน และระดับปฏิบัติการ 188 คน อย่างไรก็ตาม เนื่องจากบริษัทฯ ยังไม่มีการจ้างงานผู้พิการ บริษัทฯ จึงปฏิบัติตามข้อกำหนดของพระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ พ.ศ. 2550 มาตรา 34 โดยการส่งเงินเข้ากองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการแทนการจ้างงานผู้พิการ เพื่อสนับสนุนและพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้พิการในสังคมอย่างยั่งยืน

บริการของเรา

นักลงทุนสัมพันธ์

ความยั่งยืน

การเคารพสิทธิมนุษยชน และ การปฏิบัติต่อแรงงานอย่างเป็นธรรม

เนื้อหาเกี่ยวกับมิติด้านสังคม

Organization

More About Us

Contact

ส่งข้อมูลสำเร็จ